last day on earth อวสานโลกาวินาศ - นิยาย last day on earth อวสานโลกาวินาศ : Dek-D.com - Writer
×

    last day on earth อวสานโลกาวินาศ

    เมื่อนายทหารหนุ่ม ต้องใช้ชีวิตให้รอดในโลกที่เต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อไวรัสประหลาดพร้อมกับระบบแปลกๆจากเกมส์มือถือที่เคยเล่นก่อนอารยธรรมจะล่มสลาย ไปติดตามความลุ้นระทึกและจิตใต้สำนึกของผู้คนที่เหลือกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    91

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    91

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 ม.ค. 64 / 01:53 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

              แสงแดดที่สาดส่องผ่านช่องเล็กๆระหว่างแผ่นไม้ที่ถูกตีปิดเอาไว้ที่หน้าต่างอย่างลวกๆส่องกระทบเข้ากับเปบือกตาของผม แม้จะไม่ได้รู้สึกร้อนจนทนไม่ได้แต่มันก็ทำให้ประสาทสัมผัสในร่างกายผมตื่นตัวขึ้นมาได้ เปลือกตาค่อยๆเผยอเปิดขึ้นและก็ต้องรีบปิดลงในทันทีพร้อมกับอาการหยีตาเนื่องจากความรู้สึกแสบตาจากแสงที่แยงออกมา
    "โอยยย แสบตาจังวะ" ชาติชายสบถออกมาอย่างหัวเสียเล็กน้อยด้วยน้ำเสียงไม่ดังมากคล้ายเสียงกระซิบ พร้อมกับรีบเอามืออันหยาบกร้านของตนขึ้นมาปิดตาละทำการขยี้เบาๆเพื่อให้สายตาและประสาทการมองเห็นตื่นตัวมากขึ้น
              เมื่อสภาพร่างกายของชาติชายหรือ'ชาย'นั้นเข้าสู่ภาวะปกติ เขาจึงค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนขอบที่นอนเก่าๆแลดูมอซอและสกปรก แต่มันก็ยังดีกว่าหากต้องนอนบนพื้นไม้หรือพื้นซีเมนต์ที่แข็ง ขรุขระ และเย็นเยียบ และด้วยสภาพร่างกายที่แสนเหนื่อยล้าของเขานั้นที่นอนสกปรกๆอันนี้เปรียบได้ดั่งฟูกนอนชั้นดีในโรงแรมหรูเลยสำหรับเขาที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์หนีตายสุดชีวิตจากเมื่อคืนนี้ และกว่าที่ผ่านเหตุการณ์สุดระทึกเมื่อคืนมาได้กว่าจะได้หลับตานอนก็เล่นเอาเกือบเช้า...
              ชายเปรยสายตสของเขามองไปรอบๆบริเวณที่เขาอยู่ในปัจจุบันเนื่องจากความรีบร้อนและและความโกลาหลเมื่อคืน ทำให้ตัวเขาไม่ได้สำรวจอะไรมากมายนัก บริเวณที่เขาอยู่ในตอนนี้มันมีลักษณะเป็นห้องขนาดประมาน 4ตารางเมตร เป็นห้องปูนที่ดูแข็งแรงทนทานแต่ในขณะเดียวกันมันก็ดูเก่าคร่ำคร่าจากรอยของเชื่อราสำดำๆที่ขึ้นเป็นเทือกๆอยู่ตามกำแพง ภายในห้องประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หลายอย่าง ทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางรองเท้าเล็กๆแบบตะแกรงเหล็กที่มีทั้งรองเท้าของทั้งผู่ชายและผู้หญิงวางอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบนัก ฟูกที่นอนเก่าๆขนาด 5ฟุตที่เขากำลังนั่งอยู่ โต๊ะไม้ขนาดเมตรคูณเมตร และเก้าอี้เหล็ก 2 ตัว และยังมีตู้เย็น!!!
     "เฮ้ยย ตู้เย็น!!!" ชายกฃล่าวออกมาเ้วยน้ำเสียงตกใจปนดีใจ เขาจึงรีบพุ่งตัวไปเปิดมันทันที แต่สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของเขากลับทำให้อารมณ์ที่กำลังดีใจของเขาต้องดับวูบลงทันที เพราะภายในตู้เย็นเก่าๆใบนี้กลับมีเพียงแค่น้ำเปล่าอยู่2-3 เพียงเท่านั้น ทำให้ชายจำใจต้องหยิบน้ำทั้ง3ขวดนั้นออกมาเปิดฝาเพื่อดมกลิ่นก่อน ไม่ต้องพูดถึงความเย็นหรอก เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์บรรลัยวายป่วงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาระบบไฟฟ้าก็ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป จะมีก็แต่ระบบประปาเท่านั้นที่ยังคงสามารถใช้งานได้อยู่ตามเมืองใหญ่ๆ เมื่อชายดมกลิ่นของน้ำในขวดจนแน่ใจแล้ว จึงทำการยกกระดกโดยไม่เอาปากของตนแตะปากขวดเหมือนกับการเทกรอกส่ปากมากกว่า แต่ก็ทดแทนกันได้ มันช่วยดับความกระหายของชสยไปได้ และช่วยบรรเทาความหิวไปได้นิดหน่อย แต่คงดีกว่านี้หากมีอาหารแห้งหรืออาหารกระป๋องให้มีเนื้อสัตว์ตกถึงท้องเขาบ้าง
    เมื่อจัดการกับน้ำในขวดจนมันพร่องไปเกือบรึางขวดแล้ว ป้าหมายต่อไปของเขาคือตู้เสื้อผ้า เพราะสภาพของเขาในตอนนี้นั้นไม่ต่างจากขอทานสักเท่าไหร่กางเกงคาโก้เก่าๆสีดำที่ได้จากศพของคนตายที่เคยเดินผ่านมา ซึ่งตอนนี้มันออยู่ในสภาพขาดวิ่นไม่สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำได้แค่ปิดของลับของตนเท่านั้นและเสื้อเชิ๊ตสีฟ้าอ่อนที่ได้จากหุ่นลองเสื้อในห้างที่ไปสำรวจเมื่ออาทิตย์ก่อนที่นอกจากจะมีสภาพไม่ต่างจากกางเกงแล้ว ยังไม่สามารถช่วยบรรเทาความหนาวเย็นของช่วงกลางคืนได้อีกด้วย ไม่ต้องพูดถึงรองเท้า เขาถอดทิ้งไปตั้งแต่เมื่อ2วันก่อนแล้ว เพราะพื้นรองเท้าไม่รักดีอยากหนีจากเท้าของเขาไป จนเกือบทำให้เขาเอาชีวิตไม่รอด 
              เมื่อชายเดินมาถึงหน้าตู้เสื้อผ้าใบนี้เขาจึงค่อยๆเปิดประตูตู้ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอย่างดีใจ 
    "แจ่มเว้ยยยย มีเสื้อผ้าดีดีใส่กับเขาสักที" ชายกล่าวออกมาพร้อมกับเอื้มมือไปเพื่อจะหยิบเอาเสื้อยืดผู้ชายตัวหนึ่งจากในตู้ แต่ยังไม่ทันจะเอื้อมไปถึงทันใดนั้น...
    "ฮว๊ากกกกกกกก ฮื๊อออออ" 
    มีเสียงประหลาดและก็มีมือแห้งๆเหี่ยวๆมาจับที่ข้อมือของเขาไว้ ฉับพลันนั้นเองชายจะชักมือกลับ แต่สิ่งที่ตามชายออกมาคือศพของหญิงสาวนางหนึ่งที่ที่กำลังแยกเขี้ยวและอ้าปากกำลังจะงับไปที่มือของชาย ชายที่กำลังสะดุ้งตกใจและประมาทไม่รอช้าที่จะดึงสติของตนกลับมา รีบสวนหมัดฮุคขวาอันหนักหน่วงจากแชมป์มวยประจำค่ายภวายใส่ปลายคางของหญิงสาวซากศพนั้นอย่างถนัดถนี่
    "ผลั๊ววะ" ส่งผลให้กรามล่างของหญิงสาวซากศพห้อยลงจากจุดที่ควรจะอยู่พร้อมกับใบหน้าที่สะบัดตามแรงของหมัดจสร่างของเทอกระเด็นถอยออกไป2-3ก้าว เมื่อนั้นเองชายจึงหันหลังกลับไปยังที่นอนที่เขาเพิ่งจะลุกมาเมื่อครู่ พร้อมกับกระโจนไปหยิบค้อนตอกตะปูสีเหลืองด้ามเป็นยางสีดำ และที่หัวค้อนมีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่ ในขณะที่ชายกระโจนไปคว้าค้อนที่วางอยู่บนที่นอนนั้นเอง ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับหญิงสาวซากศพที่ตั้งหลักได้ พร้อมวิ่งพุ่งเข้าชสยซึ่งเป็นเหยื่อของเธออย่างรวดเร็ว แต่ไม่เร็วเท่าชาย เมื่อเขาจับค้อนได้ถนัดมือแล้ว เขาจึงหวดเป็นแนวขนานกับพื้นโลกจากทางขวาไปทางซ้าย เป้าหมายคือบริเวณขมับหรือจุดไหนก็ได้ที่จะสามารถทำลายสมองของหญิงสาวได้ 
    "ปั๊ก โพล๊ะ" เสียงเหมือนของแข็งกระทบกับกะลามะพร้าวเปล่าๆ พร้อมๆกับร่างของหญิงสาวที่เซถลาไปตามแรงเหวี่ยง ก่อนจะล้มลงและแน่นิ่งไป
     "เกือบไปแล้วว!! ไอ่ชายเอ๊ยย" ชายรีบสำรวจตัวเองว่ามีตรงส่วนไหนได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เมื่อสำรวจเสร๋จสิ้น ชายไปรอช้ารีบเกินเข้าไปเพื่อเช็คหญิงสาวว่ายังสามารถขยับตัวได้อยู่หรือไม่ แต่เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าวนิ้วของหญิงสาวก้อมีอาการกระตุกเล็กน้อย ชายจึฃกระโดดไปยืนคร่อมร่างเทอไว้พร้อมกับกระหน่ำค้อนในมือใส่เป้าเดียวคือหญิงสาวนางนั้นอย่างเต็มกำลัง
     "ปั้ก ปั้ก ปั้ก ปั้ก" ชายทุบจนสภาพหญิงสาวคนนี้แทบจะจำเค้าเดิมของหล่อนไม่ได้เลย เมื่อชายยืนขึ้นมา ที่บริเวณหัวค้อนของชาย มีหยดแลือดและชิ้นส่วนมันสมองบางชิ้นค่อยๆไหลลงพื้น 

    " แหมะ ติ๋ง แหมะ" 

            เมื่อจัดการเรื่องอันตรายภายในห้องได้แล้วจึงหันไปสนใจเสื่อผ้าต่อ ปรากฏว่าเขาได้เป็นกางเกงคาร์โก้สีดำแบบเดียวกับที่ดขาใส่ก่อนหน้านี้เป๊ะ และยังมีเสื้อยืดคอกลมสีดำและแจ็คเก็ตผ้าร่มสีเขียวขี้ม้าอีกตัว เป็ความโชคดีของชาย ที่เจ้าของเก่าของเสื้อผ้าเหล่านี้มีขนาดตัวใกล้เคียงกับเขามากทำให้สามารถใส่มันได้อย่างไม่ลำบากนัก พลันสายตาเขาเหลือบไปเห็นบางอย่างทางหางตาจนเขาถึงกับต้องหันไปมองมันให้เต็มสายตามันคือ 'มาม่าและปลากระป๋อง' ที่ถูกวางทิ้งไว้อยู่ใต้เสื้อยืดผู้หญิง ชายจึงไม่รอช้ารีบเปิดห่อมาม่าและบี้บดเส้นมาม่า ให้แตกออกเป็นสองก้อน หยิบขึ้นและค่อยๆกัดมันลงไป "กร้วม กร็อบ กร็อบ" ขณะที่เคี้ยวไปด้วยสยก็อมยิ้มไปด้วยอย่างสบายใจเพราะมันเป็นคาร์โบไฮเดรตมื้อแรกภายใน2-3 อาทิตย์นี้ แต่ไม่วาย ชายจึงหยิบเอาปลากระป๋องขึ้นมาดูลักษณะกระป๋องและวันหมดอายุ ปรากฏว่ามันยังคงกอนได้ และกระป๋องไม่มีปัญหาอะไร ชายจึงสบายใจและค่อยๆวางมันไว้ดังเดิม เมื่อเคี้ยวเส้นมาม่าจนหมดชายจึงกระดกน้ำตามไปอีกอึกใหญ่ เพื่อให้เส้นมันไปอืดในท้อง ชายรู้ดีว่าในสถานการณืเลวระยำแบบนี้เป็นการดีที่จะประหยัดอาหารไว้กินหลายๆมื้อ หลายๆวัน จากนั้นชายจึงเดินไปสำรวจตู้เสื้อผ้าตู้นี้ต่ออีกครั้ง สิ่งที่เขาได้มามีมากมายเลยที่สามารถใช้งานได้ ทั้ง กระเป๋าเป้แบบแบ็คแพ็คซึ่งจุของได้เยอะมาก รองเท้าเดินป่าหัวเหล็ก ถุงเท้าอย่างหนาสำหรับใส่กับรองเท้าเดินป่า 2คู่ ,รองเท้าผ้าใบผู้ชายอีกสองคู่และถุงเท้าผู้ชายทั่วไปอีก1โหล ,ผ้าอนามัย 2ห่อ ,มีดเดินป่ายาว 8นิ้ว 1เล่ม ,ไฟฉายเอนกประสงค์ที่สามารถฉายไฟส้มเพื่อส่องระยะทางไกลและไฟขาวเพื่อทำหน้าที่เป็นตะเกียง ทั้งยังมีไฟฉุกเฉินในตัวอีกด้วย ,กล้องส่องทางไกล ,กระบอกน้ำทหารพร้อมเข็มขัดสะพาย ,ถุงนอน ,เปลนอน ,และอุปกรณ์ดำรงชีพในป่าอีกหลากหลายอย่าง 'ไอหมอนี่มันน่าจะชอบเดินป่าเดินเขาแฮะ' ชายคิดในใจพลางรอยยิ้มยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา แต่สิ่งที่ทำให้ตัวของชายตกตะลึงยิ่งกว่าอุปกรณ์ใดๆนั้นก็คือ กล่องเหล็กแบบที่ทหารใช้กัน เป็นกล่องสูงประมาน2นิ้ว ยาวฟุตนึง กว้างครึ่งฟุต ถูกบรรจุเต็มไปด้วยอาหารแห้งจำพวกสแน็คบาร์ ที่ทหารอเมริกันนิยมใช้กัน เพราะมันสามารถให้พลังงานได้เทียบเท่าอาหารมื้อใหญ่ๆได้ 1 มื้อ มีขนาดเล็กพกพาง่ายและที่สำคัญคือมันเก็บไว้ได้นานมากๆ แต่ปัญหาก็คือมันมีรสชาติที่ห่วยแตกบรมและโคตรแพง แต่ชายก็ไม่ได้คิดมากอะไรนักเพราะคุ้นชินกับอาหารเหล่านี้มาจากการฝึกร่วมคอบบร้าโกลด์กับพวกทหารเมกันพอสมควร เขาจึงเก็บเอาอุปกรณ์ทั้งหมดใส่ลงในเป้หลังของเขาและเตรียมจะเดินทางต่อ โดยลักษณะการจัดเก็บของของชายจะมีดังนี้  สะพายเป้หลังไว้ข้างหลัง มีกระติกน้ำที่ล้างทำความสะอาดและกรอกน้ำจนเต็มเหน็บที่ข้างเอวด้านขวาถัดมาทางด้านหน้านิดหน่อย จะเป็นมีดเดินป่า และเอวด้านซ้ายมือจะเป็นขวานคู่ใจที่ถูกห้อยติดอยู่กับเอวพร้อมใช้งานเพราะตัวชายเองก็ไม่อยากใช้มีดเดินป่าโดยไม่จำเป็น เขาอยากเอามันมาใช้สำหรับล่าสัตว์เสียมากกว่า เมื่อทุกสิ่งอย่างถูกเตรียมการจนพร้อม ชายขยับดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตนปรากฏว่านี่มันเป็นเวลา18.35 น. ซึ่งเป็นการเสี่ยงมากที่ออกเดินทางในเวลานี้ เขาจึงได้แต่จำใจต้องนอนค้างที่ห้องพักแห่งนี้อีก 1 คืน ก่อนจะล้มตัวลงนอนเขาจึงหาผ้าเช็ดตัวเก่าๆและกองเสื้อผ้าผู้หญิงมากองทับศพของหญิงสาวที่เพิ่งถูกเขาทุบสมองเละเพื่อกันอุจาดตา ก่อนแล้วจึงเปิดไฟฉายแสงขาวเพืาอให้ห้องมันสว่างขึ้นมานิดหน่อย แล้วจึึงเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความอ่อนเพลียทั้งกายและใจ

    -----------------------------------

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น